ลุงแจ้ โผล่โรงพักบางหลวง เผย ความสัมพันธ์ นิ่ม หลังผลตรวจดีเอ็นเอตรงกับ น้องต่อ คาด พุด รู้แล้ว ยืนยัน ไม่ได้เอาเด็กไป ตอบชัดวันเกิดเหตุอยู่ที่ไหน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 ก.พ.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง จ.นครปฐม ได้นำตัวลุงแจ้ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีการหายตัวของ น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือนที่หายตัวปริศนาว่าได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่
ลุงแจ้ กล่าวว่า ได้รับผลกระทบกับตนทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานหรือการทำมาหากิน ชาวบ้านที่นับหน้าถือตาลำบากใจกันไปหมด ส่วนผลดีเอ็นเอของน้องต่อที่ออกมาตรงกับตนนั้น ตนทราบเพียงคร่าว ๆ แต่ยังไม่รู้รายละเอียด ยอมรับว่ารู้สึกตกใจ แต่ยืนยันและให้การอย่างเดิมว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปของเด็ก
ลุงแจ้ กล่าวอีกว่า อยากให้มุ่งประเด็นไปเรื่องของเด็กหายมากกว่า เพราะหายตัวไปนานแล้ว ตอนนี้ยอมรับว่าจิตใจเครียด คนที่นับหน้าถือตาและลูกหลานก็เครียด สื่อก็ตามไปบ้านแล้วติดตามตลอดรู้สึกลำบากใจแต่บริสุทธิ์ใจว่าตนไม่ได้เอาเด็กไป สำหรับผลดีเอ็นเอที่ออกมา ตอนนี้ตนก็ไม่มั่นใจว่าน้องต่อเป็นลูกตนหรือไม่ และเพิ่งรู้เรื่องผลตรวจจากสื่อ แต่ยังไม่เห็นหลักฐาน
ลุงแจ้ โผล่โรงพักบางหลวง เผย ความสัมพันธ์ นิ่ม หลังผลตรวจดีเอ็นเอตรงกับ น้องต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าหากผลตรวจรู้แน่ชัดว่าน้องต่อเป็นลูก ลุงแจ้จะรู้สึกอย่างไร ลุงแจ้ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ช่วยกันตามหาน้องต่ออยู่แล้ว พร้อมกับลงพื้นที่กับตำรวจ ส่วนตัวแล้วก็รักเด็กในหมู่บ้านทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานหรือเด็กทั่วไป สำหรับน.ส.นิ่มยังไม่มีโอกาสได้คุยกันส่วนมาก ภายหลังก็ไม่ได้คลุกคลีกันแล้ว มักจะเป็นตัวประสานให้กับพ่อของน.ส.นิ่ม หากน.ส.นิ่มติดต่อพ่อไม่ได้ ก็จะโทรมาที่ตนให้เป็นสื่อกลางเฉย ๆ
ถามต่อว่า ผลตรวจดีเอ็นเอออกมาว่าลุงแจ้เป็นพ่อ สังคมมองและตั้งข้อสงสัยว่า ลุงแจ้เอาเด็กไปหรือไม่ ลุงแจ้ กล่าวว่า ขอบอกตามตรงว่าไม่ได้เอาเด็กไปอย่างแน่นอน แล้วก็ไม่เกี่ยวข้อง เพราะวันที่เกิดเหตุตนพาพระไปบิณฑบาต ในจุดนั้นก็มีวงจรปิดไปตรวจสอบได้ และไม่มีเหตุผลที่จะต้องเอาตัวเด็กไป
ลุงแจ้ กล่าวต่อว่า อยากให้สังคมเห็นใจตนด้วย เพราะยังเป็นคนที่นับหน้าถือตากัน ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว ยอมรับว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อยู่แล้ว สุดท้ายแล้วหากเราโดนแจ้งข้อหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรากผู้เยาว์ ก็ต้องตามแก้ไขกันต่อไป แต่คิดอยู่ว่าอาจจะโดนดำเนินคดี แต่เรื่องเด็กหายสำคัญกว่า
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า นายพุดหรือไม่เรื่องความสัมพันธ์ของลุงแจ้และน.ส.นิ่ม ลุงแจ้ กล่าวว่า นายพุดคงรู้แล้ว และตนได้ทำการขอโทษพ่อของน.ส.นิ่ม ซึ่งได้คุยกับพ่อของน.ส.นิ่มบ้างแล้วแต่ก็ไม่ได้มีเหตุอะไรรุนแรง ทั้งนี้ สรุปว่า ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังไม่ได้เดินทางไปที่อื่นหรือยังไม่ได้มีการเข้าเครื่องจับเท็จแต่อย่างใด
