cronaca

เปิดพฤติการณ์ 6 ตร.ห้วยขวางรีดเงิน ก่อนโดนไล่ออก-ศาลส่งนอนคุก – ข่าวสด

เปิดพฤติการณ์-6-ตร.ห้วยขวางรีดเงิน-ก่อนโดนไล่ออก-ศาลส่งนอนคุก-–-ข่าวสด

เปิดพฤติการณ์ 6 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง คดีฉาวรีดเงินกลุ่มดาราสาวไต้หวันขณะตั้งด่านตรวจ ศาลไม่ให้ประกันส่งตัวเข้าเรือนจำ ขณะที่ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

วันที่ 2 ก.พ.2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง คณะพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง นําตำรวจสน.ห้วยขวาง 6 นาย ส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเพื่อขอให้ศาลออกหมายขังและฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ตามคำร้อง ระบุว่าพฤติการณ์สรุปว่า

วันที่ 5 ม.ค.เวลา 00.01 น. เจ้าพนักงานตำรวจทั้ง 6 นายที่ถูกกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านอยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.27 น. มีนายเป จึง ชือ หรือ สกาย สัญชาติสิงคโปร์ กับพวกรวม 4 คน เป็นชาย 3คน หญิง 1 คน โดยสารรถยนต์มาสด้าสีแดง มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหากับพวกตั้งด่านอยู่ มีสิบตำรวจเอก ล. ผู้ต้องหาที่ 5 เป็นผู้คัดรถยนต์เข้ามาให้สิบตำรวจเอก ว. ผู้ต้องหาที่ 6 ตรวจค้นบุคคลในรถ

จับ6ตร.

ผู้ต้องหาทั้ง 6 เชิญ นายเป จึง ซือ ลงจากรถเพื่อค้นตัว สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้ค้นตัว ส่วนเพื่อนของ นายเป จึง ชือ อีก 2 คน ถูกกลุ่มผู้ต้องหาค้นตัว การตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3 อัน สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 กับร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 พูดคุยสอบถาม เพื่อขอดูหนังสือเดินทางและวีซ่าจาก นายเป จิง ชือ กับพวก

ขณะนั้นนายเป จึง ชือ กับพวก ไม่ได้พกหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย มีเพียงภาพถ่ายหนังสือเดินทางในโทรศัพท์มือถือ สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 กับร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหา ที่ 2 พยายามพูดจาข่มขู่ นายเป จิง ชือ กับพวก ว่ากระทำความผิดโดยครอบครองบุหรี่ไฟฟ้ากับไม่พก หนังสือเดินทางพร้อมวีซ่า อ้างว่าจะพาไปสถานีตำรวจทั้งที่ไม่มีเจตนาที่จะพาไปจริงกลับข่มขู่ให้ นายเป จิง ชือ กับพวก เกิดความกลัว จนกระทั่งสิบตำรวจเอก น.ผู้ต้องหาที่ 3 กับร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 ปรึกษาและตกลงกันเรียกเงินจากนายเป จึง ชือ กับพวก เป็นเงิน 27,000 บาท

แบ่งเป็น ค่าที่พกบุหรี่ไฟฟ้าอันละ 6,000 บาท ทั้งหมด 3 อัน และค่าไม่พกหนังสือเดินทางอีก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 27,000 บาท นายเป จึง ชือ ยืนยันว่า ตนกับพวกไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะบุหรี่ไฟฟ้าที่ตนกับพวกซื้อจากร้านที่วางขายของย่านห้วยขวางไม่ผิดกฎหมาย แต่ด้วยความกลัวและเกรงว่าจะเสียเวลานายเป จึง ชือ และ น.ส.ชาลีน หรือ อันชิง ชาวไต้หวันจะเดินทางกลับต่างประเทศในคืนวันเกิดเหตุ จึงจำยอมจ่ายเงินจำนวน 27,000บาท ให้กับสิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้รับเงินใส่ ในกระเป๋าเสื้อนอกนายเป จึง ชือ กับพวก ถามสิบตำรวจเอก ป.ว่าตนกลับได้หรือไม่ สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 บอกว่า ต้องสอบถามร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 ก่อน ผู้ต้องหาที่ 3และผู้ต้องหาที่ 2 เดินมายังนายเป จึง ชื่อ กับพวก พร้อมยื่นบุหรี่ไฟฟ้าที่ยึดไว้ในตอนแรกให้นายเป จึง ชือ กับพวก ถือไว้คนละอัน

ส่ง

โดยร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้สั่งให้สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 ใช้ไฟฉายส่องขณะสิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 ถ่ายรูปเพื่อให้แสงสว่างในการถ่าย จากนั้นร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 ขออนุญาตให้นายเป จิง ชือ กับพวกกลับไปได้ ภายหลังสิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 น้ำเงิน 27,000 บาท ที่ได้รับจากนายเป จึง ชือ มอบให้กับร้อยตำรวจเอก ย. ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็น หัวหน้าชุดที่นั่งในรถที่จอดไว้บริเวณที่เกิดเหตุรับเงินจำนวนดังกล่าวแล้วนำไปแบ่งในกลุ่มผู้ต้องหาด้วยกัน

ผู้ต้องหาทั้ง 6 เข้าพบคณะพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 คณะพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 6 ซึ่งปรากฏต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ว่ากระทําความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับหรือ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือ ไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายเมื่อวันที่ 2 ก.พ. เวลา 10.30 น.

รถขัง

เหตุเกิดบริเวณ ถนนรัชดาภิเษก หน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย พนักงานสอบสวน ขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งหก มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2-13 ก.พ.66 และขอคัดค้านการขอปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีภายหลัง

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิจารณาคำร้องขอฝากขังแล้ว อนุญาต ให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหกได้ มีกำหนด 12 วัน ส่วนที่ผู้ต้องหาทั้ง 6 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบ ต่อภาพลักษณ์และกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยรวม อีกทั้งผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานตำรวจอาจ ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและกระบวนการในชั้นสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

Leave a Reply