กสทช.ชี้ทางออก ‘กกท.’ จะคืนเงิน 600 ล้าน-ยกเลิกเอ็มโอยูกับกลุ่มทรู หลังทำผิดกฎมัตส์แครี่ ชี้ต้องเร่งเปิด IPTV ถ่ายบอลโลกที่เหลือ เผยตอนมาขอเงิน กกท.มาแบบสิ้นหวังมาก
จากกรณีกสทช.เรียกคืนเงิน 600 ล้านบาท จาก กกท. เนื่องจาก กกท.ไม่ปฏิบัติตาม ‘บันทึกความตกลง (MOU) ระหว่าง กสทช.-กกท’ ทำผิดกฎมัตส์แครี่ การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้อย่างทั่วถึง ซึ่งขณะนี้โทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกไอพีทีวี (IPTV)ไม่สามารถรับชมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจากเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ ประธาน กสทช. กล่าวว่า ในตอนนั้นกกท.มาด้วยความสิ้นหวังมากว่าไม่มีเงินที่จะถ่ายทอดบอลโลก แต่มาถึงวันนี้กกท.กลับไม่ทำตามข้อตกลงใดๆ เลย โดยกกท.ยืนยันมาโดยตลอดว่า เข้าใจและจะปฎิบัติตามเอ็มโอยู ระหว่างกสทช. และ กกท. ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า การถ่ายทอดสดการแข่งขันจะต้องดำเนินการตามกฎมัสต์แครี่ แต่กกท.ทำผิดข้อตกลง เพราะประชาชนไม่สามารถรับชมและเข้าถึงการถ่ายทอดสดการแข่งขันได้อย่างทั่วถึง โดยระหว่างนี้ต้องให้โอกาส กกท. ได้ทบทวน และจะเชิญเข้าหารือร่วมกันอีกครั้ง
ประธานกสทช. กล่าวว่า ขอให้การต่อสู้กันในศาลปกครอง เป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง ซึ่งจะพิจารณาว่า หาก กกท.ไม่นำเงิน 600 ล้านบาท มาคืนภายใน 15 วัน หรือ หาก กกท. ยกเลิกเอ็มโอยูที่ทำร่วมกับทรู เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 65 และเปิดให้ประชาชนได้รับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกได้อย่างทั่วถึง กกท. ก็มีสิทธิที่จะไม่คืนเงินได้ และเป็นทางหนึ่งในการแก้ปัญหานี้
นพ.สรณ ระบุว่า กสทช. เป็นองค์กรกำกับดูแล แต่ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายเอ็มโอยูระหว่าง กกท. และทรู ได้ ซึ่งมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว เป็นเพราะเอ็มโอยูทั้ง 2 ฉบับ มีตัวบทที่แตกต่างกัน ระหว่างกฎมัสต์แครี่ และกฎหมายลิขสิทธิ์ ดังนั้น จึงต้องชั่งน้ำหนักว่าอะไรสำคัญกว่า แต่อย่างไรก็ไม่สามารถละเมิดคำสั่งศาลได้
“ยอมรับว่าหนักใจ และจะมีการปรึกษาสำนักงานอัยการสูงสุดต่อไป โดย กสทช. มองว่า กฎมัสต์แครี่มีน้ำหนักและควรปฏิบัติตาม และหวังอย่างยิ่งว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศ คนไทยจะสามารถรับชมได้ทุกแพลตฟอร์ม และหลังจบการแข่งขันต้องมีการทบทวนกฎมัสต์แครี่ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตอนนี้เร็วเกินไปที่จะพูดว่ายกเลิก”
