ตำรวจ นำกำลังบุกตรวจผับดังย่านอาร์ซีเอ เชื่อมโยงกลุ่มพนันออนไลน์ มาเก๊า 888 พบยาเสพติดโยนทิ้งเกลื่อนพื้น เผย ออกหมายจับเครือข่ายแล้ว 13 คน
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 5 ก.พ.2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ดูแลงานป้องกันปราบปราม พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. นำกำลังตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เข้าตรวจสอบ “ออนิกซ์ผับ” แหล่งสถานบันเทิงอาร์ซีเอ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. หลังพบความเชื่อมโยงว่า กลุ่มผู้ต้องหาพนันออนไลน์ มาเก๊า 888 มีหุ้นส่วนกับผับดังกล่าว
ตำรวจ นำกำลังบุกตรวจผับดังย่านอาร์ซีเอ เชื่อมโยงกลุ่มพนันออนไลน์ มาเก๊า 888
เมื่อไปถึงพบนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก กำลังดื่มและเต้นกันอย่างสนุกสนานตามจังหวะเสียงเพลงดังกระหึ่ม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ปิดเสียงเพลงและหยุดกิจกรรม ก่อนตรวจสอบบัตรประชาชนและพาสปอร์ตของกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยแยกกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงออกให้กลับบ้านได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นำสุนัขตำรวจ k9 เข้าตรวจสอบภายในผับ พบมียาเสพติดถูกโยนทิ้งตกพื้นอยู่จำนวนมาก จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.ภานพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในสถานบันเทิงแห่งนี้พบยาเสพติดตกอยู่ที่พื้นจำนวนมาก โดยมีทั้งชนิดเม็ดและผง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บนำไปตรวจสอบว่าเป็นสารเสพติดชนิดใด ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ตรวจสอบหนังสือเดินทางว่าเข้ามาในไทยอย่างถูกต้องหรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ได้ร่วมนำกำลังมาสืบสวนหาข่าวหลังจากที่จับผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ มาเก๊า 888 ได้แล้ว 1 คน ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับรวม 13 คน และมีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้ได้นำเงินมาฟอกในธุรกิจสถานบันเทิงหลายแห่ง รวมทั้งนัดหมายมาคุยเรื่องธุรกิจพนันออนไลน์ตามสถานบันเทิง จึงเข้ามาตรวจสอบด้วยแต่ยังไม่พบ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ก.พ.นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันบูรณาการเข้าตรวจสอบตามสถานบันเทิง ที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการ เพื่อป้องกันอาชญากรรมและเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องด่านตรวจ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้าจะเสนอแผนให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาปรับเปลี่ยนในการตั้งด่านตรวจให้ผู้ปฏิบัติมียุทธวิธีในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอบรมให้ความรู้กับตำรวจประจำด่านตรวจ จะต้องมีความรู้ด้านกฎหมายเพื่อที่จะตอบคำถามกับประชาชนที่มีข้อสงสัยให้ได้ พร้อมช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ตำรวจได้ว่ามีความรู้สามารถในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการบันทึกภาพของตำรวจที่อยู่ประจำด่านตรวจ หลังจากนี้ต้องมีกล้องบันทึกภาพการตรวจค้นไว้โดยตลอด และห้ามลบภาพเพื่อป้องกันข้อทักท้วงในภายหลัง โดยชุดภาพจากกล้องประจำตัวของตำรวจจะต้องนำมาไว้ที่สถานีตำรวจหลังเสร็จภารกิจและภาพจะถูกนำลงระบบไว้อัตโนมัติ ซึ่งในระบบนี้ยังสามารถบันทึกการใช้อาวุธประจำกายได้ด้วย
