Luxuo Thailand อัพเดทตัวเลือกซันเดย์บรันช์ที่น่าสนใจที่สุดของกรุงเทพที่ทุกคนควรหาเวลาไปลอง
บทความ: LuxuoTH ภาพ: ภาพจากโรงแรมแต่ละแห่งที่นำเสนอ
หลังจากทำงานมาทั้งสัปดาห์ วันหยุดก็อยากให้เวลาเดินผ่านไปช้าๆ ทำอะไรแบบไม่ต้องเร่งรีบ มีเวลาเพลิดเพลินกับสิ่งรอบๆ ตัวให้มากขึ้น ดังนั้นมื้อสายวันอาทิตย์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนเมืองที่ไม่รีบร้อนก่อนจะกลับไปเริ่มต้นสัปดาห์การทำงานที่แสนจะวุ่นวายอีกครั้ง เราจึงขออัพเดทตัวเลือกซันเดย์บรันช์ในกรุงเทพที่ไม่ควรพลาดให้กับคุณผู้อ่านด้วยบทความนี้
Flourish ที่โรงแรม Sindhorn Kempinski Bangkok ให้คุณอิ่มเอมกับสายวันอาทิตย์ด้วย Extravaganza Sunday Brunch ที่ Extravaganza สมชื่อจริงๆ คุณจะได้เต็มอิ่มกับอาหารนานาชาติ ทั้งซีฟู๊ดทาวเวอร์ที่ทางเชฟคัดสรรวัตถุดิบนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำ กุ้งล็อบสเตอร์เนื้อก้ามเด้งหวานอร่อย หอยนางรมและหอยแมลงภู่ดำ พร้อมซอสโฮมเมดต่างๆ ส่วนปลาดิบและซูชิในมุมอาหารญี่ปุ่นก็ส่งตรงมาจากห้องอาหาร Ki Izakaya มุมชีสของที่นี่นั้นก็มีให้เลือกมากมายพร้อมผลไม้แห้ง ผลไม้สดและถั่วนานาชนิดซึ่งถูกใจชีสเลิฟเวอร์อย่างแน่นอน และที่จะขาดไม่ได้ก็คือโคลด์คัดและเคียวด์มีทแบบจัดเต็ม อาทิ พาร์มาแฮม อิเบอร์ริโก้ ซาลามี่ เป็นต้น
มุมอาหารไทยรสชาติต้นตำรับก็มีให้เช่นกัน และที่พิเศษไม่เหมือนใครคือมุมอาหารตะวันออกกลางกับเคบับและเครื่องจิ้มต่างๆ โดยเชฟชาวเลบานีส สปาเก็ตตี้สเตชั่นและพิซซ่าอบร้อนๆ ก็มีให้ด้วยเช่นกัน ส่วนมุมอาหารย่างอย่างเนื้อซึ่โครงอบนุ่มๆ ปลากะพงอบเกลือตัวโต แฮมอบน้ำผึ้งหอมหวาน และกุ้งลายเสือย่างเราก็ไม่อยากให้คุณพลาด ปิดท้ายมื้อแห่งความสุขด้วยไอศครีม มาการอง พุดดิ้งและขนมหวานอื่นๆ อีกมากมาย The Extravaganza Sunday Brunch เวลา 12.00-15.00 น. ราคา 3,200++ บาทต่อท่าน ยังไม่รวมแพ็คเกจเครื่องดื่มแบบฟรีโฟลว์สำหรับท่านที่สนใจอีก 1,600++ บาทต่อท่าน สอบถามรายละเอียดและสำรองโต๊ะได้ที่ 02-095-9999
Aqua Bar ที่โรงแรม Anantara Siam Bangkok เสิร์ฟบุฟเฟต์เมนูอาหารนานาชาติมื้อสายวันอาทิตย์ให้คุณได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ในบรรยากาศกลางสวนอันร่มรื่น ขับกล่อมด้วยดนตรีแจ๊ซเล่นสดระหว่างมื้ออาหาร ซันเดย์บรันช์ของที่นี่นำเสนออาหารจานเด่นจากทุกห้องอาหารของโรงแรมมารวมไว้ในที่เดียวกัน ได้แก่ มุมซีฟู๊ดที่จัดเต็มมากๆ ด้วยล็อบสเตอร์ ขาปูอลาสก้า หอยนางรมและอีกมากมาย อาหารยุโรปก็ต้องไม่พลาดฟัวกราส์และสเต๊กเนื้อนำเข้า ส่วนเมนูอาหารญี่ปุ่นจากห้องอาหาร Shintaro ก็มีเทมปุระ ซูชิ ซาชิมิ ปลาดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น ราเมงเนื้อวากิว สำหรับแฟนๆ อาหารอิตาเลียนก็จะได้เต็มอิ่มไปกับพาสต้าและรีซอตโตต้นตำรับจากห้องอาหาร Biscotti หรือถ้าใครชอบอาหารจีน ที่นี่เขาก็มีเป็ดปักกิ่งและหมูแดงให้แบบจุกๆ อีกทั้งโคลด์คัท ชีส และอาหารอินเดีย
นอกจากไลน์บุฟเฟต์แล้วก็ยังมีเมนูจานหลักให้เลือกสั่งตามต้องการอีกด้วย ตบท้ายขนมหวานนานาชนิด อาทิ เค้ก ช็อคโกแลต ไอศกรีมโฮมเมดและผลไม้ หากไปกันเป็นครอบครัวก็สามารถใชบริการคิดส์คลับซึ่งมีกิจกรรมที่ช่วยดึงความสนใจของเด็กๆ ได้ด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์สำหรับทุกครอบครัวอย่างแน่นอน มื้อสายวันอาทิตย์นี้เสิร์ฟตั้งแต่ 12.00-15.30 น. ราคาเริ่มต้นที่ 2,500++ บาทต่อท่าน (รวมน้ำผลไม้ ชา กาแฟและซอฟท์ดริงค์) หรือราคา 3,500++ บาทต่อท่าน (รวมเบียร์ ไวน์และค็อกเทล) และราคา 4,500++ บาทต่อท่าน (รวมแชมเปญ Moët & Chandon) เด็กอายุ 5-11 ปีราคาท่านละ 1,250++ บาทและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีรับประทานฟรี สอบถามรายละเอียดและสำรองโต๊ะได้ที่ 02-126-8866
Lord Jim’s โดยโรงแรมMandarin Oriental Bangkok คือตำนานบุฟเฟต์มื้อกลางวันระดับพรีเมียมแห่งแรกของประเทศไทยที่อยู่คู่กับกรุงเทพมหานครมามากกว่า 40 ปีและยังคงเป็นที่ประทับใจในความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีเยี่ยม บวกกับเมนูที่มีมากกว่า 100 รายการ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Lord Jim’s จะเป็นบุฟเฟต์มื้อกลางวันในดวงใจของหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นมุมอาหารทะเล แคนนาเดียนล็อบสเตอร์ ปูยักษ์จากฮ็อกไกโด หอยนางรมจากฝรั่งเศส ซูชิและซาชิมิมากมาย
แล้วยังมีฟัวกราส์จากฝรั่งเศส แฮมไอเบอริโก แซลมอนกรัฟลักซ์ตำรับนอร์ดิค ปลากะพงอบเกลือ แฮมอบน้ำผึ้งมัลเบอร์รี่ออร์แกนิค สเตชั่นพาสต้าเส้นสดโฮมเมดกับซอสต่างๆ จากห้องอาหาร Ciao Terrazza อีกทั้งยังมีสามารถเลือกเมนูจานหลักที่ปรุงสดใหม่จากในครัวได้อีกด้วย อาทิ ซีฟู๊ดเทอร์มิดอร์ รีซอตโต้กับแบล็คทรัฟเฟิ้ล ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิว หรือเมนูจานหลักตำรับไทยจากห้องอาหาร Sala Rim Naam อาทิ ต้มยำกุ้ง หรือน่องเป็ดตุ๋นสมุนไพร เป็นต้น สุดท้ายที่ไม่อยากให้คุณพลาดก่อนกลับบ้านก็คือ เครปซูเซท เมนูของหวานสุดคลาสสิคที่อยู่คู่กับซุ้มขนมหวานประจำห้องอาหารนี้มากกว่า 4 ทศวรรษ มื้อกลางวันวันอาทิตย์ของ Lord Jim’s เสิร์ฟเวลา 11.30-15.00 น. ราคา 3,800++ บาทต่อท่าน สอบถามรายละเอียดและสำรองโต๊ะได้ที่ 02-659-9000
The Dining Room ของโรงแรมGrand Hyatt Erawan Bangkok จัด The Grand Sunday Brunch ในทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน เราอยากให้คุณได้ไปสัมผัสกับความแกรนด์นี้ซึ่งเอ็กเซ็คคิวทีฟเชฟเดวิด ซีเนีย ตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมทั้งเนื้อวัว เนื้อซึ่โครงแกะพรีเมียมและซีฟู๊ดสดใหม่จากต่างประเทศอย่างร็อคล็อบสเตอร์หรือหอยนางรม 3 สายพันธุ์สดๆ จากฝรั่งเศสมาให้เราได้ลิ้มลองอย่างจุใจ อีกทั้งยังมีซูชิและซาชิมิที่สดอร่อย หรือจะเป็นอาหารกลิ่นอายเอเชียนและตะวันตก เช่น ปูผัดซอสพริกสิงคโปร์รับประทานคู่กับหมั่นโถวทอดร้อนๆ หมูย่างสไตล์ฮ่องกง และกงฟีเป็ดแบบฝรั่งเศส
3 เมนูไฮไลท์ของที่นี่ที่คุณต้องลองสั่ง ได้แก่ ฟัวกราส์โอตอร์ชงย่างร้อนๆ เสิร์ฟกับซอสแอปริคอต ริสซอตโต้เห็ดทรัฟเฟิลและพอร์ชินีหอมกรุ่น และอิกุระทาร์ตสุดหรู สำหรับใครที่ชื่นชอบบีฟเวลลิงตั้นที่หารับประทานได้ยาก ที่นี่เขาก็มีพร้อมเสิร์ฟด้วยเช่นกัน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเคียวด์มีทชั้นเลิศจากฝรั่งเศสและชีสนำเข้าคุณภาพเยี่ยมซึ่งที่นี่มีหลากหลายชนิดแบบจุใจ ยังไม่นับของหวานทั้งไทยและเทศที่ยกขบวนมาให้คุณได้จบมื้อสายวันอาทิตย์อย่างเต็มอิ่ม เปิดให้บริการเวลา 12.00-15.00 น. ราคาเริ่มต้นที่ 3,250++ บาท (รวมซอฟท์ดริงค์ น้ำผลไม้ กาแฟและชา) ราคา 4,550++ บาท (รวมไวน์และโพรเซ็กโก) และราคา 5,750++ บาท (รวมแชมเปญ) สามารถสอบถามรายละเอียดและสำรองโต๊ะได้ที่ 02-254-1234
Next2 Cafe ของโรงแรม Shangri-La Bangkok พร้อมให้คุณอิ่มเอมกับบรันช์วันอาทิตย์ไปพร้อมๆ กับบรรยากาศสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟฟิลลิป เทย์เลอร์ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่มากประสบการณ์นำทีมพ่อครัวมืออาชีพรังสรรค์เมนูซิกเนเจอร์มากมายให้ท่านได้อิ่มอร่อย ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสดๆ มากมาย กุ้งเนื้อเด้งและปูเนื้อหวาน หอยนางรมตัวอวบ ไข่เบเนดิกต์ ฝั่งอาหารตะวันตกอย่างสเต๊กเนื้อคุณภาพเยี่ยมและบาร์บีคิวเลิศรสก็มีให้ได้ลิ้มลอง สเตชั่นอาหารอินเดียก็จริงจังด้วยอาหารรสชาติต้นตำรับหลากหลายเมนูและพิเศษกับเมนูทันดูริที่ย่างด้วยเตาดินเผาทันดูร์โดยเฉพาะ หรือจะเป็นซูชิและซาชิมิก็มีให้เลือกด้วยเช่นกัน
สำหรับมื้อสายวันอาทิตย์ทางห้องอาหารยังได้เตรียมเมนูพิเศษล็อบสเตอร์เทอร์มิดอร์แสนอร่อยเสิร์ฟให้กับแขกคนละ 1 ตัวพร้อมเครื่องดื่มพิเศษไว้ต้อนรับอีก 1 แก้วอีกด้วย และใครที่ชื่นชอบของหวานก็จะต้องรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับตัวเลือกของที่นี่ เพราะว่าเขามีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นไอศครีม เค้กต่างๆ ผลไม้สดตามฤดูกาล และไฮไลท์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงโซนนี้ก็คือช็อกโกแลตฟาวเท่นเข้มข้นรับประทานกับผลไม้ต่างๆ นั่นเอง พบกับความพิเศษนี้ได้ทุกวันอาทิตย์เวลา 12.00-15.00 น. ที่ราคา 2,900 บาทสุทธิต่อท่าน (มีส่วนลด 50% สำหรับเด็กอายุ 6-11 ปี) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ 02-236-7777
Uno Mas ที่โรงแรม Centara Grand at CentralWorld นำมื้อสาย Sunday Champagne Brunch ที่หลายคนเคยติดใจกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง โดยจะจัดเพียงแค่เดือนละครั้งเท่านั้นในวันอาทิตย์แรกของเดือน โดยทุกท่านที่เลือกมาบรันช์ที่นี่จะเต็มอิ่มกับบุฟเฟต์อาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนพร้อมกับทัศนียภาพของกรุงเทพมหานครจากความสูงของชั้น 54 และแชมเปญ G.H. Mumm Cordon Rouge ที่จะเสิร์ฟอย่างต่อเนื่องไม่มีขาดตลอดระยะเวลา 3 ชั่วโมงของมื้อพิเศษนี้
หลายท่านเคยบอกเราว่าถ้าจะมาบรันช์ที่นี่ก็ไม่ต้องทานอาหารเช้ามาเลยดีกว่า เพราะนอกจากที่จะได้สัมผัสกับตัวเลือกที่มากมายตั้งแต่ทาปาส แฮมไอเบอริโก โคลด์คัทและปาเอญ่าแล้วก็ยังมีหอยนางรม 4 สายพันธุ์ ปูหิมะ เมนล็อบสเตอร์ กุ้งลายเสือ หรือไฮไลท์ที่โดดเด่นอย่างเช่นซาชิมิล๊อบสเตอร์ หรือซาชิมิเนื้อโกเบเกรด A5 ที่โชว์ทั้งความนุ่มและความสดกันชิ้นต่อชิ้น จากนั้นยังเพิ่มความพิเศษด้วยการสั่งอาหารจานพิเศษจากในครัวที่คุณเลือกได้ตามความชอบ เช่น หนวดปลาหมึกย่าง หอยเชลล์ฮ็อกไกโดกับพิวเรฟักทองกลิ่นทรัฟเฟิล เนื้อวากิวย่างในซอสไวน์แดง ซี่โครงแกะหมักซอสพอร์ทไวน์ย่าง ก่อนที่จะพบกับความน่าประทับใจจากไลน์ของหวานที่เราบอกตามตรงเลยว่าเลือกไม่ถูกว่าจะเริ่มหยิบอะไรก่อนเพราะว่าดูดีไปหมด พบกับ Sunday Champagne Brunch ได้ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน เวลา 11.30-14.30 น. ราคา 4,555++ บาทต่อท่าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ 02-100-6255
บทความที่เกี่ยวข้อง: Relaxed Yet Refined Italian Dining at Otto on Thonglor