ความละเอียดอ่อนและความหลากหลายในดีไซน์ของ Oyster Perpetual Lady-Datejust ขนาด 28 มม. ที่พร้อมเสริมรับกับบุคลิกของผู้หญิงเก่งที่เลือกสวมใส่นาฬิการุ่นนี้
บทความ: LuxuoTH
คุณสมบัติที่เพียบพร้อมในทุกด้านทำให้เรากล้าพูดอย่างเต็มปากว่า Rolex Oyster Perpetual Lady-Datejust เป็นเรือนเวลาแห่งความคลาสสิกของยุคสมัยปัจจุบันอย่างแท้จริง นาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้ได้ไปอยู่บนข้อมือของสุภาพสตรีที่ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นนักชีววิทยาทางทะเล ซิลเวีย เอิร์ล แชมป์กอล์ฟ แอนนิกา โซเรนสตัม และ นักร้อง ดาม คีรี เต คานาวา และ Oyster Perpetual Lady-Datejust ก็ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงรุ่นใหม่ที่มีใจมุ่งมั่นไขว่คว้าหาความเป็นเลิศต่อไป อาทิ นักเปียโน ยูจา หวัง แชมป์เทนนิส การ์บีน มูกูรูซา นักชีววิทยา เอมมา แคมป์ ซึ่งปฏิบัติภารกิจปกป้องแนวปะการัง และ นักซีตาร์ อานุชกา ชานการ์ ซึ่งแต่ละท่านนั้นก็นำเอาพลังแห่งความเยาว์วัยมาสู่แวดวงของตนต่อไป
Rolex Oyster Perpetual Lady-Datejust ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1957 แล้วยืนหยัดผ่านกาลเวลาจนกลายมาเป็นเรือนเวลาระดับไอค่อนและตัวแทนแห่งความคลาสสิกในวันนี้ เราอยากให้คุณผู้อ่านมองด้วยว่านาฬิกาคอลเลคชั่นนี้ไม่เพียงเป็นความสำเร็จในเชิงเทคนิคเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสังคมสมัยใหม่ที่ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย
Rolex ไปรวบรวมข้อมูลจากประวัติศาสตร์มาได้น่าสนใจมากว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในปี 1957 ไม่ว่าจะเป็นปีแห่งความโด่งดังของออเดรย์ เฮปเบิร์น ในวงการฮอลลีวู๊ด เป็นปีที่ซิลเวีย เอิร์ล ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต เป็นปีที่ฟร็องซวส ซาก็องมีผลงานที่โลกวรรณกรรมต้องจับตามอง เป็นปีที่แพท สมีธคว้าชัยในกีฬาแข่งม้า และเป็นปีที่อเดล ซิมป์สันสะกดเหล่าชาวนิวยอร์คด้วยผลงานชุดล่าสุดของเธอ เราจะเห็นได้ว่าในช่วงเวลานั้นบรรดาสุภาพสตรีต่างมีบทบาทในระดับอาชีพมากขึ้น แล้วไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่มีความแอคทีฟยิ่งกว่าเดิมก็ตามมา ผู้หญิงสมัยใหม่ในวันนั้นมีความจำเป็นต้องบริหารเวลามากกว่ายุคสมัยก่อน และความเที่ยงตรงก็มีความสำคัญกับพวกเธอไม่น้อยไปกว่าคุณผู้ชายทั้งหลายเลย
นาฬิกาที่เข้ามาเป็นคำตอบในเวลานั้นก็คือ Rolex Oyster Perpetual Lady-Datejust เรือนเวลาขนาดเล็กที่เปี่ยมด้วยความเป็นเลิศในเชิงเทคนิคและดูสง่างามสำหรับทุกโอกาส แม้ในวันนี้นาฬิการุ่นดังกล่าวก็ยังคงเป็นองค์รวมอันสมบูรณ์แบบระหว่างรูปทรงและประโยชน์ใช้สอย Rolex มีการผลิต Oyster Perpetual Lady-Datejust ขนาด 28 มม. ด้วยวัสดุต่างๆ ได้แก่ ออยสเตอร์สตีล เยลโลว์โกลด์ หรือไวท์โกลด์ หรือเอเวอร์โรสโกลด์ 18 กะรัต และเวอร์ชั่นโรเลซอร์ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างออยส์เตอร์สตีลและเยลโลว์โกลด์ หรือไวท์โกลด์ หรือเอเวอร์โรสโกลด์ 18 กะรัต ตัวเลือกอันหลากหลายภายในคอลเลคชั่นนี้เกิดจากการใช้หน้าปัด ขอบตัวเรือนและสายนาฬิกาที่มีดีไซน์ต่างกัน แล้วยังมีเรื่องของวัสดุ สี ลวดลายและหลักชั่วโมงเข้ามาเพิ่มเติมอีก
Oyster Perpetual Lady-Datejust ในภาพเปิดตัวเรือนทำจากเยลโลว์โกลด์ 18 กะรัต หน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาว ประดับหลักชั่วโมงเพชรที่ทุกตำแหน่งยกเว้นตำแหน่ง 12 นาฬิกาและ 3 นาฬิกาซึ่งมีมงกุฏของ Rolex และหน้าต่างวันที่อยู่ตามลำดับ จากนั้นยังเพิ่มความเจิดจรัสด้วยการประดับเพชรทรงบริลเลียนท์คัทจำนวน 44 เม็ดบนขอบหน้าปัด ประกอบเข้ากับสายนาฬิกาแบบเพรสซิเดนท์ที่มีบานพับซ่อนแบบคราวน์แคลสป์รุ่นใหม่
รุ่นต่อไปที่เราอยากแนะนำก็คือ Oyster Perpetual Lady-Datejust รุ่นเอเวอร์โรสโรเลซอร์ซึ่งนำความอบอุ่นของวัสดุเอเวอร์โรสโกลด์มาประกอบกับความเงางามของวัสดุออยส์เตอร์สตีล หน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้มีสีช็อคโกแลตที่ดูเข้ากับสีของโลหะ พื้นหน้าปัดมีลวดลายซันเรย์ที่แผ่รัศมีจากจุดศูนย์กลางออกไปยังหลักชั่วโมงโดยรอบ ขอบหน้าปัดประดับเพชรในสไตล์เดียวกันกับเวอร์ชั่นแรกที่นำเสนอข้างต้น แต่ว่านาฬิการุ่นนี้มาพร้อมด้วยสายนาฬิกาแบบออยส์เตอร์วัสดุเอเวอร์โรสโรเลซอร์ที่มีบานพับแบบออยส์เตอร์แคลสป์และข้อขยายแบบอีซี่ลิงค์เพื่อความสบายข้อมือในทุกโอกาสเพราะว่าสามารถขยายความยาวของสายได้ประมาณ 5 มม. เมื่อต้องการ
ใครที่ชอบความเรียบหรูน่าจะสนใจ Oyster Perpetual Lady-Datejust รุ่นไวท์โรเลซอร์ซึ่งเปลี่ยนจากขอบหน้าปัดแบบประดับเพชรเป็นขอบหน้าปัดแบบเซาะร่องทำจากไวท์โกลด์ ซึ่งเป็นดั่งซิกเนเจอร์สำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolex หน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้เป็นสีเงินและประดับหลักชั่วโมงแบบตัวเลขโรมันจึงทำให้เรือนเวลารุ่นนี้มีบุคลิกที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นที่มีหน้าปัดแบบประดับเพชรอย่างชัดเจน
อย่างที่กล่าวแต่แรกว่า Oyster Perpetual Lady-Datejust นั้นมีความหลากหลายในดีไซน์แบบไม่มีข้อจำกัด เพราะนอกจากที่จะมีการใช้ตัวเลขและเพชรประกอบกันเป็นหลักชั่วโมงในรูปแบบต่างๆ แล้ว Oyster Perpetual Lady-Datejust ยังมีเวอร์ชั่นที่ใช้หน้าปัดแบบผลิตจากหินอีกด้วย อย่างเช่นรุ่นไวท์โกลด์ 18 กะรัตรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้จะมีหน้าปัดโอปอลสีชมพูที่ดูมีชีวิตชีวา หลักชั่วโมงตามตำแหน่งต่างๆ เป็นรูปดาวประดับเพชร ยกเว้นตำแหน่ง 9 นาฬิกาซึ่งมีลักษณะเป็นตัวเลขโรมันขนาดใหญ่และประดับเพชรเช่นเดียวกัน ตบท้ายด้วยการประดับเพชรบนขอบหน้าปัดและสวมใส่ด้วยสายแบบเพรสซิเดนท์ ไม่เพียงเท่านั้น Rolex ยังมีการใช้ดีไซน์หน้าปัดนี้ในนาฬิกา Oyster Perpetual Lady-Datejust รุ่นเอเวอร์โรสโรเลซอร์ที่มีหน้าปัดสีโรสและสวมใส่ด้วยสายนาฬิกาแบบจูบิลลีซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน
อัญมณีที่ใช้ในนาฬิกา Rolex ทุกรุ่น เป็นอัญมณีที่มีคุณภาพสูงสุดจากแหล่งธรรมชาติ เพชรที่ Rolex ใช้จะต้องเป็นเพชรที่ไม่มีสีเจือปนหรือจัดอยู่ในระดับ D ถึง G และปราศจากตำหนิที่มองเห็นได้ เทียบเท่ากับระดับ IF หรือ Internally Flawless ตามมาตรฐานของสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกาหรือ GIA เพชรที่ผ่านการตรวจสอบโดยนักอัญมณีศาสตร์ของ Rolex จะถูกส่งต่อไปให้ช่างประดับเพชรภายในโรงงานของ Rolex ใช้ตกแต่งนาฬิกาจนเกิดเป็นลวดลายอันไร้ที่ติด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและทักษะที่สั่งสมมานาน
แต่ไม่ว่าจะเป็น Oyster Perpetual Lady-Datejust ดีไซน์ใด เอกลักษณ์ที่ทุกรุ่นมีเหมือนกันก็คือเลนส์ไซคลอปส์ขยายวันที่ที่มีประโยชน์ในการใช้งานจริงเป็นอย่างมาก และในเรื่องขนาดนั้น Oyster Perpetual Lady-Datejust ก็เป็นนาฬิกา Rolex ที่มีขนาดเล็กที่สุดในเวลานี้ด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 28 มม. แต่สามารถกันน้ำได้ลึกถึงระดับ 100 เมตรด้วยตัวเรือนออยส์เตอร์และเม็ดมะยมแบบทวินล็อค นาฬิกา Oyster Perpetual Lady-Datejust ประกอบด้วยสายแบบออยส์เตอร์ที่มีบานพับออยส์เตอร์แคลปส์และข้อต่อเพื่อความสบายอีซีลิงค์ หรือสายแบบจูบิลีหรือสายเพรสซิเดนท์ที่มีบานพับคราวน์แคลปส์ โดยสายทุกแบบมีระบบการเชื่อมต่อกับตัวเรือนแบบซ่อนเพื่อเส้นสายที่ต่อเนื่องเรียบเนียนอย่างไร้ที่ติ
กลไกคาลิเบอร์ 2236 ที่ใช้ในคอลเลคชั่น Lady-Datejust ได้รับการจดสิทธิบัตรหลายรายการด้วยกัน ชุดออสซิเลเตอร์มีบาลานซ์วีลแบบวาริเอเบิลอิเนอร์เชียซึ่งถูกตรึงไว้อยู่ในตำแหน่งด้วยทราเวิร์สซิ่งบริดจ์แบบปรับความสูงได้ และปรับตั้งด้วยน็อตไมโครสเตลลาร์ที่ผลิตจากทอง ไม่เพียงเท่านั้น กลไกดังกล่าวยังมีชุดดูดซับแรงสั่นสะเทือนพาราเฟล็กซ์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งออกแบบและจดสิทธิบัตรโดย Rolex เอง มีแฮร์สปริงไซล็อกซีซึ่งผลิตจากซิลิคอนและเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมของ Rolex ที่มีสิทธิบัตรคุ้มครองเช่นกัน โดยแฮร์สปริงชนิดนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็กและจะสามารถมอบความเสถียรในระดับสูงกว่าในขณะที่นาฬิกาต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือแรงสั่นสะเทือน กำลังลานสำรองของกลไกนี้อยู่ที่ประมาณ 55 ชั่วโมงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กก็ตาม
นาฬิกา Oyster Perpetual Lady-Datejust ทุกเรือนผ่านการรับรองโดยมาตรฐานซูเปอร์เลทีฟโครโนมิเตอร์ กล่าวคือ นาฬิกาที่ประกอบเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถูกนำไปทดสอบอย่างเข้มงวดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยซึ่ง Rolex เป็นผู้พัฒนาขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทั้งในแง่ของความเที่ยงตรง กำลังลานสำรอง การกันน้ำและประสิทธิภาพของการขึ้นลาน นาฬิกาที่ผ่านมาตรฐานนี้ทุกเรือนจะต้องมีค่าความเที่ยงตรงอยู่ในช่วง +2/-2 วินาทีต่อวัน และจะมีการรับประกันนาน 5 ปี ตลอดจนมาพร้อมกับตราสัญลักษณ์กรีนซีลสีเขียวของ Rolex เพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพในด้านความน่าเชื่อถือ ความคงทน และความทนทานต่อสนามแม่เหล็กและแรงสั่นสะเทือน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิกา Rolex ที่ https://www.srichaiwatch.com/
บทความที่เกี่ยวข้อง: One Watch, One Instrument, 24 Time Zones
The Oyster Perpetual Lady-Datejust in 28 mm size is marked by refinement as well as aesthetic diversity to match the personality of power women wearing it.
Words: LuxuoTH
With impeccable attributes in all aspects, it is not an overstatement at all to say that the Rolex Oyster Perpetual Lady-Datejust is an authentic modern classic. These watches have graced the wrist of successful ladies in different fields like marine biologist Sylvia Earle, golf champion Annika Sörenstam, and singer Dame Kiri Te Kanawa. They continue to inspire the next generation of young women with the same pursuit of excellence. Prodigious pianist Yuja Wang, tennis champion Garbiñe Muguruza, biologist Emma Camp who works to protect coral reefs, and the sitar virtuoso Anoushka Shankar all bring renewed vigour to their respective disciplines across the spectrum.
The Rolex Oyster Perpetual Lady-Datejust was born in 1957 and has become an icon and a true classic over the decades. Interestingly, the timepiece does not only represent technical achievements – it was created and developed as a response to the changing needs of women in the modern world.
Rolex reminds us that 1957 was the year Audrey Hepburn captivated Hollywood, Sylvia Earle obtained her Master of Science, Françoise Sagan shook up the literary landscape, Pat Smythe reigned supreme in equestrian sport, and Adèle Simpson seized the attention of New Yorkers with her latest creations. It was a time of change with more women partaking in professional roles and the active lifestyles that followed. The modern women of that period had a greater need to manage their time. Precision became a matter of significance, and they needed it as much as men.
A watch of smaller proportions built on unwavering standards of excellence, and also elegant and graceful, the Rolex Oyster Perpetual Lady-Datejust is a perfect alchemy of form and function till this day. The 28 mm watch is produced in Oystersteel, 18 ct yellow, white or Everose gold, and in Rolesor version where Oystersteel is combined with 18 ct yellow, white or Everose gold. Many variants are available through a combination of dials, bezels and bracelets. This is where individuality is celebrated through a wealth of materials, colours, motifs and markers.
The Oyster Perpetual Lady-Datejust in 18 ct yellow gold that is featured above presents a white mother-of-pearl dial with diamond hour markers for all positions except at 12 and 3 o’clock positions where the Rolex crown and the date window are located, respectively. The ensemble is made even more radiant with the setting of 44 brilliant-cut diamonds on the entirety of the bezel. This timepiece is worn on a President bracelet with a new-generation concealed Crownclasp.
Another version of the Oyster Perpetual Lady-Datejust is in Everose Rolesor, combining that unique hue of warmth offered by Everose with the cool sheen of Oystersteel. The chocolate dial complements the metals, and features a sunray finish that radiates from the centre to the hour markers all around. Its bezel is set with diamonds in the same style as the first version presented, but this timepiece is fitted with an Oyster bracelet in Everose Rolesor with an Oysterclasp and Easylink comfort extension link that ensures comfort in any circumstance, thanks to the possibility of increasing the length of the bracelet by approximately 5 mm when needed.
For subtle elegance, we propose the Oyster Perpetual Lady-Datejust in white Rolesor. On this version, the diamond-set bezel is replaced by a fluted bezel – a genuine Rolex signature feature – in white gold. On the silver dial, the hours are marked by Roman numerals which give the watch a very different personality, compared to the diamond-set dial.
The aesthetic possibility of the Oyster Perpetual Lady-Datejust is endless. In addition to the various combinations of numerals and diamonds for the hour markers, certain versions are realised with a stone dial. One 18 ct white gold version in particular was recently released with a pink opal dial, bringing a new sense of vitality. The hour markers are in the shape of a star and set with diamonds. For the 9 o’clock position, an oversized Roman numeral is used, and this is set with diamonds as well. This watch with a diamond-set bezel is worn on a President bracelet. The same design graces another version of the Oyster Perpetual Lady-Datejust in Everose Rolesor with a rose-colour dial and a Jubilee bracelet.
Gemstones used on all Rolex timepieces are of highest quality and natural origin. Diamonds are the most colourless ones with colour ranges from D to G, and free from visible inclusions, equivalent to IF (Internally Flawless), on the Gemological Institute of America (GIA) scale. The ones approved by gemmologists are entrusted to in-house gem-setters of Rolex who apply their skills and techniques to ensure perfect alignment of these stones on the watch parts.
Regardless of aesthetic design, all Oyster Perpetual Lady-Datejust watches share the same practicality of an instantaneous date display and a Cyclops lens. In terms of size, it is the smallest offering from Rolex at 28 mm. Do not be misled by the petite figure, however, because the Oyster case and the Twinlock winding crown ensure that the watch is waterproof to a depth of 100 metres. The Oyster Perpetual Lady-Datejust watches are worn on either an Oyster bracelet with a folding Oysterclasp and the Easylink comfort extension link, a Jubilee bracelet or President bracelet with a Crownclasp. All bracelets feature a concealed attachment system for seamless visual continuity with the case.
The self-winding calibre 2236 used in the Lady-Datejust collection carries a number of patents. The oscillator has a balance wheel with variable inertia which is held firmly in place by a height-adjustable traversing bridge, and precisely regulated via gold Microstella nuts. It is also fitted with high-performance Paraflex shock absorbers, designed and patented by Rolex. Calibre 2236 uses a Syloxi hairspring in silicon, another Rolex patented innovation, which is insensitive to magnetic fields and provides great stability when the watch goes through temperature variations and when it experiences shocks. This movement offers a respectable power reserve of approximately 55 hours, despite its small size.
All Oyster Perpetual Lady-Datejust watches are Superlative Chronometer certified. Fully assembled watches undergo a series of stringent tests using state-of-the-art equipment specially developed by Rolex to assess their precision, power reserve, waterproofness and self-winding. These watches operate to the precision of +2/-2 seconds per day. They are delivered with a 5-year international guarantee and a Rolex green seal which attests to their performance where reliability, robustness, and resistance to magnetic fields and shocks are concerned.
For more information about Rolex timepieces, please visit https://www.srichaiwatch.com/.
See also: One Watch, One Instrument, 24 Time Zones