Ulysse Nardin แต่งแต้มความสดใสให้กับนาฬิการุ่น Blast Tourbillon และ Lady Diver ด้วยอัญมณีหลากสีบนขอบตัวเรือน
บทความ: รักดี โชติจินดา
Blast เป็นนาฬิกาที่เราให้ความสนใจเป็นอย่างมากตั้งแต่ที่เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 2020 เพราะเรามองว่าคอลเลคชั่นนี้มีศักยภาพในการนำพาให้แบรนด์หลุดจากกรอบของความคลาสสิกเดิมๆ และเข้าสู่ห้วงแห่งความร่วมสมัยได้อย่างสวยงาม
ตัวเรือนของ Blast ได้รับการออกแบบให้ดูคมคายด้วยเหลี่ยมมุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขาตัวเรือนที่ทอดตัวเฉียงลงเพื่อให้รับกับข้อมือได้เป็นอย่างดี เครื่องนาฬิกาเป็นแบบสเกเลตั้นที่มีบริดจ์รูปตัวเอ็กซ์อยู่ใต้กรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากคอลเลคชั่น Executive ในอดีต แล้ว Ulysse Nardin ก็ยังตอกย้ำบุคลิกแห่งความแกร่งกล้าของ Blast อีกระดับด้วยการทำแคมเปญโปรโมทด้วยภาพของคาร์สเทน ปีเตอร์ ช่างภาพสายธรรมชาติที่มักเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยงอันตรายต่างๆ และเซบาสเตียน โคปแลนด์ซึ่งก็เป็นนักสำรวจโลกอีกคนหนึ่งที่ใช้ภาพถ่ายบอกเล่าให้ผู้คนในสังคมในตระหนักถึงปัญหาเรื่องภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี
แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องผูกมัด Blast ไว้กับกรอบของการผจญภัย เพราะว่าดีไซน์ที่ร่วมสมัยของตัวเรือนและตัวเครื่องนั้นเปิดช่องให้ Ulysse Nardin เลือกจับคู่วัสดุและสีต่างๆ จนเกิดเป็นเรือนเวลาที่ดึงดูดสายตาได้โดยง่าย เหมือนเช่น Blast Tourbillon Rainbow ที่เราได้เห็นอยู่ในเวลานี้
Blast Tourbillon Rainbow เป็นนาฬิกาหนึ่งในสองรุ่นจากคอลเลคชั่น Rainbow ที่ Ulysse Nardin นำเอาโทนสีที่เหลือบไปมาของวัสดุซิลิเซียมที่ใช้ในการผลิตเอสเคปเมนท์มาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งแต้มความสดใสให้กับ Blast Tourbillon ขนาด 45 มม. เอกลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของนาฬิกาในคอลเลคชั่นนีก็คือการประดับอัญมณีทรงบาแก็ตแบบไล่สีจำนวน 38 เม็ดบนขอบตัวเรือน ได้แก่ แซฟไฟร์สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วงไปจนถึงสีชมพู และมีรูบี้สีแดงร่วมด้วย รวมน้ำหนักอัญมณีทั้งหมด 3.65 กะรัต แล้วยังมีอัญมณีทรงบาแก็ตแบบไล่สีเช่นเดียวกันนี้ตามตำแหน่งหลักชั่วโมงอีก 12 เม็ด รวมน้ำหนักทั้งหมด 1.58 กะรัต
ตัวเรือนชิ้นกลางและฝาหลังผลิตจากไทเทเนียมเคลือบสีดำด้วยกระบวนการดีแอลซี ตัวเรือนชิ้นบนผลิตจากเซรามิกสีดำ ขอบตัวเรือนที่มีการประดับอัญมณีนั้นเป็นสเตนเลสสตีลเคลือบสีดำด้วยกระบวนการดีแอลซี เครื่องนาฬิการุ่น UN 172 มีไมโครโรเตอร์ผลิตจากแพลทตินัมติดตั้งอยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเพื่อใช้ในการขึ้นลานจนเต็ม 72 ชั่วโมง ทางด้านล่างบริเวณ 6 นาฬิกามีกลไกฟลายอิ้งตูร์บิยองซึ่งมีเอสเคปเมนท์วีล แองเคอร์และสปริงผลิตจากซิลิเซียม Blast Tourbillon Rainbow รุ่นนี้สวมใส่ด้วยสายหนังจระเข้สีดำหรือสายยางสีดำและผลิตเป็นจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้นในราคาเรือนละ 85,000 ฟรังก์สวิส
สำหรับนาฬิกาอีกรุ่นหนึ่งในคอลเลคชั่น Rainbow เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ นั่นก็คือ Lady Diver Rainbow ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 39 มม. ขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ทิศทางเดียวของนาฬิการุ่นนี้มีการประดับอัญมณีรวม 40 เม็ดรวม 1.04 กะรัต ในลักษณะไล่เฉดสีรุ้งเหมือนรุ่นแรก ได้แก่ รูบี้สีแดง ซาโวไรท์สีเขียว เพอริดอทสีเขียวอ่อน โทปาซสีน้ำเงิน อควอมารีนสีฟ้า อเมธิสท์สีม่วง และแซฟไฟร์สีส้ม สีเหลือง สีน้ำเงิน สีม่วงและสีชมพู แต่ด้วยความที่เป็นนาฬิกาดำน้ำจึงต้องมีสเกลคั่นทุก 5 นาทีและมีตัวเลขที่ตำแหน่ง 0, 15, 30 และ 45 นาที และเพิ่มเติมอีกก็คือการประดับเพชรจำนวน 11 ตามตำแหน่งหลักชั่วโมงบนหน้าปัดสีเงินหรือสีดำ
ตัวเรือนของ Lady Diver Rainbow มีประสิทธิภาพในการกันน้ำได้ลึกถึงระดับ 300 เมตร ภายในบรรจุเครื่องนาฬิกาแบบขึ้นลานอัตโนมัติรุ่น UN 816 ที่มีเอสเคปเมนท์วีลและแองเคอร์ผลิตจากซิลิเซียมเช่นเดียวกัน จำนวนการผลิตรุ่นสีขาว Lady Diver Rainbow White 300 เรือนและรุ่นสีดำ Lady Diver Rainbow Black 300 เรือน สวมใส่ด้วยสายยางหรือสายหนังจระเข้สีขาวหรือสีดำตามรุ่น ราคาค่าตัวอยู่ที่ 12,900 ฟรังก์สวิส
หากคุณผู้อ่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิกา Ulysse Nardin โปรดติดต่อ PMT The Hour Glass ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยได้โดยตรง สาขาสยามพารากอน 02-129-4774 สาขาเซ็นทรัลเอ็มบาสซี 02-160-5733 สาขาเกษรวิลเลจ 02-656-1212 สาขาดิเอ็มควอเทียร์ 02-003-6022 และสาขาเซ็นทรัลภูเก็ตฟลอเรสตา 076-633-888
บทความที่เกี่ยวข้อง: Two New Dials Grace the Girard-Perregaux Laureato Collection
The two-part collection comprises the Blast Tourbillon Rainbow and the Lady Diver Rainbow.
Words: Ruckdee Chotjinda
We at World of Watches Thailand were particularly intrigued by the launch of Blast in 2020. We believe in the collection’s potential to help Ulysse Nardin break the mould of classicism, and to present the brand in a more daring and contemporary light.
The Blast was designed on the basis of the Executive collection it replaced. One would notice, first of all, the familiar rectangular frame on top of the skeletonised X bridge. Upon closer inspection, it will be clear also that the case of the Blast is masterfully designed with taut, purposeful lines all around. The lugs are also thoughtfully angled downward to ensure a snug fit on the wrist. At that time, Ulysse Nardin chose to reinforce the outdoorsiness of Blast with a visual campaign involving Carsten Peter and Sebastian Copeland. The former is a nature photographer known to work frequently on dangerous grounds, and the latter is an explorer who promotes global warming awareness through his photographic works.
Having said that, we do not need to permanently fix an adventure badge on the Blast. This is because the contemporary styling of the case and the movement allows for Ulysse Nardin to mix and match between materials and colours with ease, resulting in such an eye-catching timepiece as the Blast Tourbillon Rainbow that is the star of this article.
Ulysse Nardin, inspired by the iridescent rainbow colour of silicium used to produce escapement components, went on to decorate the bezel of the 45 mm Blast Tourbillon watch with 38 baguette-cut gemstones. These include sapphires in yellow, green, blue, violet and pink, as well as red rubies, weighing a total of 3.65 carats. The same rainbow gradation is replicated once more with 12 gemstones for the hour marker positions for a total weight of 1.58 carats.
Construction-wise, the middle case and the caseback are made of titanium then coated in black with the DLC process while the upper case is made of black ceramic. The bezel holding the gemstones is black DLC stainless steel. The watch’s UN 172 calibre has a micro rotor made of platinum at the 12 o’clock position to help build the power reserve of 72 hours. The flying tourbillon sits below at six o’clock, complete with escape wheel, anchor and spring made of silicium. The Blast Tourbillon Rainbow is worn on either a black alligator leather strap or a black rubber strap. Production is limited to 50 pieces and the price is CHF 85,000.
Another watch in the two-model Rainbow collection is conceived especially for women. The Lady Diver Rainbow features a 39 mm stainless steel case. On its unidirectional rotating bezel, 40 gemstones weighing 1.04 carats can be found in the same rainbow graduation as the aforementioned Blast. They are red rubies, green tsavorites, light green peridots, blue topazes, light blue aquamarines, violet amethysts and sapphires in the hues of orange, yellow, blue, violet and pink. This being a dive watch, it is necessary for the bezel to have a divider every five minutes, and to have minute markings at the 0, 15, 30 and 45 positions.
The case of the Lady Diver Rainbow can withstand pressure to the depth of 300 metres. It contains the self-winding UN 816 movement with escapement wheel and anchor, similarly made of silicium. There will be 300 each of the Lady Diver Rainbow White and the Lady Diver Rainbow Black. Each will be worn on choices of rubber or alligator leather strap in white or black, depending on the dial colour. The price is CHF 12,900.
For more information on Ulysse Nardin, please contact PMT The Hour Glass, the authorised retailer in Thailand. Call 02-129-4774 for Siam Paragon, 02-160-5733 for Central Embassy, 02-656-1212 for Gaysorn Village, 02-003-6022 for EmQuartier and 076-633-888 for Central Phuket Floresta.
See also: Two New Dials Grace the Girard-Perregaux Laureato Collection
