Thematic Dining by the River at The Crystal Grill House

The Crystal Grill House ร้านอาหารระดับโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในโครงการ Asiatique The Riverfront 
บทความ:
ลภีพันธ์ โชติจินดา ภาพ: Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park

Asiatique The Riverfront มีเรือสิริมหรรณพเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นอยู่แล้ว โดยเป็นร้านอาหารเรือใบสามเสาที่ถอดแบบมาจากเรือที่มีชื่อว่า “ทูลกระหม่อม” ซึ่งเคยล่องจากไทยไปยังดินแดนอันไกลโพ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 และเวลานี้ในบริเวณใกล้กันก็มี The Crystal Grill House เป็นห้องอาหารแห่งใหม่ที่เป็นเสมือนภาคต่อจากเรือสิริมหรรณพที่บอกเล่าประวัติศาสตร์การค้าระหว่างไทยกับคู่ค้าสำคัญทั้ง 5 ประเทศในอดีต ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อเมริกา อินเดียและเปอร์เซีย ทั้งยังมีการนำเรื่องราวของประเทศต่างๆ นั้นมาใช้เป็นธีมในการตกแต่งห้องกระจกริมแม่น้ำทั้ง 5 ห้องและการคิดค้นซิกเนเจอร์ค็อกเทลตามชื่อประเทศเหล่านั้นด้วย

Thematic Dining by the River at The Crystal Grill House

The Crystal Grill House นำทีมโดยเชฟ พักตร์พิไล เชี่ยนมั่น หัวหน้าเชฟ ซึ่งเชฟและทีมงานได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอย่างเนื้อวัวกราสเฟดนำเข้าจากออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาเฉพาะส่วนที่ดีที่สุด และอาหารทะเลชั้นเลิศที่สดใหม่มาปรุงแต่ตามสั่งด้วยความพิถึพิถัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมวิธีในการย่างของที่นี่นั้นเป็นการย่างเตาถ่านด้วยไม้หลากชนิดในเตา Josper ที่ได้ชื่อว่าเป็นเตาย่างระดับพรีเมี่ยมที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเชี่ยวชาญเรื่องย่างเป็นที่สุด อาหารที่ย่างจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ทำให้รสชาติของอาหารมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าชื่อร้านนั้นไม่ได้ตั้งขึ้นมาเล่นๆ อย่างแน่นอน

เมนูแนะนำที่เราได้สัมผัสมาแล้วและอยากกลับไปซ้ำอีก เริ่มด้วยเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง หนวดปลาหมึกยักษ์ย่างซอสโรเมสโก้เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งและผักร็อคเก็ต (Grilled octopus, romesco, new potatoes, arugula) หนวดปลาหมึกยักษ์ย่างมาหอมและนุ่มกำลังดีกินคู่กับซอสโรเมสโก้ที่เข้มข้นกลมกล่อม เพียงแค่เริ่มมาก็ไม่พร้อมมูฟออนไปจานต่อไปแล้ว แต่เราก็ต้องลองหอยเชลล์ฮอกไกโดสด ปรุงกับน้ำมันมะกอกและแตงโมคอมเพลสเสิร์ฟพร้อมอโวคาโดวาซาบิครีม (Hokkaido scallop crudo, compressed watermelon, avocado wasabi puree) ที่ให้ความสดชื่นรสชาติลงตัวอย่างน่าสนใจ หรือจะเป็นกุ้งลายเสือที่เชฟนำเอาแป้งฟิลโลฝอยมาห่อแล้วทอดเสิร์ฟพร้อมซอสเรมูลาด (Kataifi fried tiger prawns, chunky remoulade sauce) กินแล้วเพลินเป็นอย่างมาก และหากใครที่ทานเนื้อดิบได้ เขาก็มี ทาร์ทาร์เนื้อเสิร์ฟพร้อมแยมไข่แดงรับประทานคู่กับขนมปังซาวร์โดห์ (Hand-cut steak tartare, egg yolk jam, grilled sour dough) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ที่ไม่ควรพลาด

สำหรับจานหลัก แน่นอนว่าสเต็กเนื้อวัวคือเมนูแนะนำ ซึ่งมีให้คุณเลือกหลากหลายส่วนตามที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นแบล็คแองกัสเทนเดอร์ลอยน์ ริบอาย และโบนอินริบอาย หรือจะเป็นวากิวออสเตรเลียที่มีให้เลือกทั้งสตริปลอยด์และริบอายเช่นกัน ซึ่งสเต็กเทนเดอร์ลอยน์และวากิวสตริปลอยด์ที่เราได้ลองนั้นหอมนุ่ม ย่างมาได้อย่างพอดิบพอดี โดยเฉพาะวากิวสตริปลอยน์ที่เป็นจานโปรดในดวงใจไปแล้ว แต่หากใครไม่ใช่สายเนื้อวัว ทางร้านยังมีเนื้อสันนอกแกะ พอร์คช็อป ปลาแซลมอนและกุ้งลายเสือจัมโบ้พร้อมเสิร์ฟเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูสปาเก็ตตี้ต่างๆ และเบอร์เกอร์ให้เลือกด้วย

ตบท้ายมื้อค่ำอย่างอิ่มเอมด้วยขนมหวานที่ทางร้านก็ทำได้ดีไม่แพ้เมนูหลักเลยจริงๆ ทั้งคัสตาร์ดแบบโปรตุเกสคู่กับซอสคาราเมลและราสเบอร์รี่สด (Portuguese custard flan, caramel sauce, fresh raspberries) ชีสเค้กขิงมะนาวและซอสเบอร์รี่ (Baked cheesecake, berry compote) ดับเบิ้ลช็อกโกแล็ตมูสและวิปครีม (Double chocolate mousse pot, whipped cream) ที่รับประทานคู่กับมินิบราวนี่ส์รสเข้มข้น และเมนูของหวานที่ขโมยหัวใจเราไปอย่างไม่น่าเชื่อก็คือ พัฟโลวามะม่วง เสาวรสและซีตรัส (Mango pavlova, passion fruit curd, citrus) ซึ่งทำออกมาได้เป็นเมอร์แรงเนื้อเบาไม่หวานจัดกินคู่กับมะม่วงและซอสเสาวรสนั้นลงตัวเป็นอย่างมาก

Thematic Dining by the River at The Crystal Grill House

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าหลายเมนูที่ได้ลิ้มลองไปนั้นยังคงทำให้เราพึงพอใจและจดจำประสบการณ์ของอาหารมื้อนั้นจนถึงตอนนี้ เป็นรสชาติอาหารที่สื่อได้ถึงความเอาใจใส่ ความตั้งใจและความพิถีพิถันในการปรุงแต่ง ที่แค่วัตถุดิบที่มีคุณภาพกับอุปกรณ์เครื่องมือราคาสูงอย่างเดียวไม่พอ ฝีมือของเชฟผู้ดูแลการปรุงแต่งอาหารก็ต้องดีมากๆ ด้วย

The Crystal Grill House รอให้คุณได้มาสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าตื่นตาตื่นใจ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.30-00.00 น. มีโซนกริลล์เฮาส์บาร์และโซนระเบียงริมน้ำกลางแจ้งให้คุณได้รื่นรมย์กับบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน โซนห้องรับรองส่วนตัวทั้งห้า และโซนกริลล์เฮาส์คิทเช่นซึ่งเป็นครัวเปิดที่คุณจะได้เห็นขั้นตอนการเตรียมอาหารและการทำงานของเชฟอย่างใกล้ชิด ติดต่อสอบถามและจองโต๊ะได้ที่หมายเลข 02-059-5999

บทความที่เกี่ยวข้อง: Relaxed Yet Refined Italian Dining at Otto on Thonglor